แฟนคลับเซเว่นฯ ทุกท่านคงต้องเคยได้ทานน้ำพริกป้าแว่นกันอย่างแน่นอน เป็นน้ำพริกที่รสชาติดี สะอาด สดใหม่ ราคาไม่แพง และนอกจากรสชาติดีงามแล้ว ยังเป็นน้ำพริกที่หาทานได้ง่าย พกพาสะดวก หลายคนมักจะชอบหิ้วไปทานที่เมืองนอก ในยามที่คิดถึงรสชาติน้ำพริกของบ้านเรา
น้ำพริกป้าแว่นเปิดขายสินค้าตัวแรกคือน้ำพริกปลาทู ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก หลายคนติดใจ จากนั้นไม่นานเค้าก็ทำน้ำพริกอีกมากมายมาให้เราได้ทานกันอย่างต่อเนื่องหลายตัว ทั้งน้ำพริกสด น้ำพริกแห้ง ช่วงกินเจก็จะมีพวกน้ำพริกเห็ดหอมด้วย อร่อยมากกกก
ครั้งนี้ถือว่าโชคดีมากๆ ในฐานะแฟนคลับน้ำพริกป้าแว่น ที่มีโอกาสได้มาเยี่ยมชมโรงงานน้ำพริกป้าแว่นถึงจังหวัดชลบุรีเลย แล้วก็ได้ทราบว่าธุรกิจน้ำพริกเป็นวิสาหกิจชุมชน เป็นกลุ่มชุมชนในพื้นที่มาทำงานร่วมกัน
ทราบมาว่าพนักงานมีกว่า 70 คนเลยทีเดียว รายได้ก็กระจายสู่ชุมชนไม่ได้ไปไหน
และที่เห็นอยู่ตรงนี้คือน้ำพริกป้าแว่นเยอะมากกกกกกก คุณป้านำมาต้อนรับพวกเรา ทั้งหมดนี้คือน้ำพริกที่ยังมีขายอยู่ในเซเว่นฯ น้ำพริกที่มีขายเป็นซีซั่น รวมไปถึงน้ำพริกสินค้าใหม่ที่กำลังจะวางขายในอนาคต
โอ้ยยยยยย น้ำตาจิไหล คุณป้าน่ารักมากกกกกกก
หลังจากได้ทานน้ำพริกกันจนอิ่มหน่ำ (ผมนี่เบิ้ลไปหลายจาน) คุณป้าก็พาเราเข้าไปชมโรงงานครับ ซึ่งกฎของโรงงานคุณป้าค่อนข้างรัดกุมมากๆ คือคณะสื่อต้องใส่ชุดคลุม ปิดผม ปิดปาก คลุมรองเท้า ถึงจะสามารถเข้าไปได้ เป็นมาตรฐานโรงงานครับ
ที่เราเห็นคือเป็นโรงงานส่วนที่กำลังผลิตน้ำพริกปลาสลิดฟูผัดขี้เมาครับ ภาพด้านล่างคือปลาสลิดทอดในน้ำมันร้อนๆ
จากนั้นเค้าจะนำปลาสลิดที่ทอดเสร็จแล้ว มาใส่ในเครื่องบด
จากนั้นเครื่องบดก็จะทำหน้าที่บดเนื้อปลาอย่างละเอียด
ส่วนถัดมาเรามาดูกันตรงที่เค้าผัดน้ำพริกกัน
ตอนแรกคิดว่าเค้าจะใช้เครื่องจักรในการผัด แต่ผิดคาดครับ เป็นชาวบ้านในชุมชนมาผัดปลาสลิดกันเองนี่แหละ กลิ่นฉุนของเครื่องขี้เมาแรงมากกก คนที่ไม่ชินกับกลิ่นเครื่องแกงเข้าไปนี่อาจจะมีจามรัวๆ เลยครับ เค้าเลยต้องให้ใส่ mask เพื่อความสะอาด
เครื่องแกงที่ผ่านการตวงมาแบบพอดีตามสูตร
สองคนผัดหนึ่งกระทะแบบนี้เลยครับ พนักงานแข็งแรงทีเดียว
ถึงแม้จะใช้พนักงานในการปรุงทั้งหมด แต่เค้าก็มีการคุมอย่างเข้มงวด เพื่อทำให้ทุกกระทะได้รสชาติแบบเดียวกัน อย่างที่เห็นในภาพคือเครื่องวัดอุณหภูมิครับ ละเอียดกันมากๆ
หลังจากผัดเสร็จ เค้าก็จะนำมาพัก พร้อมกับตรวจเช็กอีกครั้ง
จากนั้นจะมาสู่ขั้นตอนการบรรจุที่ ซึ่งเป็นอีกครั้งที่เคยมีภาพในหัวว่าจะใช้เครื่องจักร แต่ก็เป็นชาวบ้านอีกแล้วครับ โดยหนึ่งโต๊ะจะมีพนักงาน 3 คนนั่งอยู่ แบ่งหน้าที่กันในการตักและชั่งน้ำหนัก
จากนั้นนำมาใส่ลงในเครื่องปิดซีลด้านบนฝา
จากนั้นก็จะนับจำนวนแล้วนำใส่ลังเตรียมจำหน่าย การเก็บเค้าแบ่งเป็นสองแบบ อย่างน้ำพริกสดเค้าทำวันต่อวัน ทำตอนกลางวัน ช่วงเย็นจะมีรถบรรทุกมารับไปส่งเข้าเซเว่นฯ ขายในวันต่อไปเลย เรียกว่าสดมากๆ
กับอีกแบบคือน้ำพริกแห้ง เช่นน้ำพริกปลาสลิดย่าง ก็สามารถสต๊อกเก็บไว้ได้ เพราะน้ำพริกพวกนี้ความชื้นน้อยอายุจะนานกว่า แต่เค้าก็สต๊อกไว้เพียงไม่กี่วันก็ออกจำหน่ายแล้วครับ
เส้นทางน้ำพริกป้าแว่น ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
ป้าแว่น หรือ “บังอร วันน้อย” เริ่มต้นจากอาชีพเกษตรกร มีที่ก็ปลูกผัก ขุดบ่อเลี้ยงปลา แต่รายได้ไม่มากพอที่จะดูแลส่งลูกเข้าโรงเรียน ในปี 2540 คุณป้าจึงเริ่มทำน้ำพริกกระปุกออกวางจำหน่ายตามตลาด ฝากขายตามร้านต่างๆ ในพื้นที่ น้ำพริกคุณป้าขายค่อนข้างดี จึงพอมีเงินเก็บเป็นทุนส่วนหนึ่ง จากนั้นก็นำเงินทุนมาต่อยอดธุรกิจเรื่อยๆ
แบรนด์น้ำพริกป้าแว่นของคุณป้าเริ่มเป็นที่รู้จัก จนได้ไปจำหน่ายในห้างดังหลายแห่งรวมถึงพารากอน ที่คุณป้าไปยืนตำน้ำพริกสดๆ ทุกวัน เดินทางไป-กลับ ชลบุรี-พารากอนทุกวัน คุณป้าเหนื่อยมาก แต่ก็ทำด้วยความตั้งใจ จนทำให้แบรนด์โด่งดังมาเรื่อยๆ
พอมาถึงช่วงปี 2549 มีเหตุการณ์ชุมนุมประท้วง ทำให้น้ำพริกคุณป้าขายยาก สินค้าตีกลับค้างอยู่เป็นจำนวนมาก จนเริ่มเป็นหนี้สินสะสมต่อเนื่องหลักล้านบาท และช่วงน้ำท่วมครั้งใหญ่ปี 2554 ยิ่งทำให้ธุรกิจของคุณป้าเข้าขั้นวิกฤต เป็นหนี้กว่า 30 ล้านบาท
จนคุณป้าถูกศาลฟ้องล้มละลาย ธนาคารจะมายึดทรัพย์สิน คุณป้าและลูกๆ กัดฟันสู้กันจนถึงที่สุด เพื่อไม่ให้ที่ดินที่เป็นโรงงานของคุณป้าถูกยึดไป พยายามนำสินค้าไปคุยกับหลายเจ้า แต่ก็ยังไม่ได้วางจำหน่ายกับห้างไหน
จนได้รับโอกาสจากทาง CP ALL ให้เข้าไปคุย ด้วยรสชาติของน้ำพริก และลงทุนทำโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐาน น้ำพริกป้าแว่นจึงได้ไปวางจำหน่ายใน 7-Eleven ในที่สุด
คุณป้าเล่าให้ฟังว่าตอนรถบรรทุกขับมารับสินค้า คุณป้าปลื้มมากจนน้ำตาไหล (นึงถึงหนังเรื่องเถ้าแก่น้อยเลย) จากนั้นคุณป้าก็นำเงินที่ได้มาต่อยอดโรงงาน ขยายกำลังการผลิต ชวนคนในชุมชนที่ไม่มีรายได้มาช่วยงาน รวมทั้งรับซื้อวัตถุดิบจากชาวบ้าน พวกเครื่องสมุนไพรต่างๆ ขิง ข่า พริก ถ้าคุณภาพได้ ทางคุณป้าช่วยรับซื้อหมด
แต่คุณป้าก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ ยังต้องพัฒนามาตรฐานให้ดีขึ้น พร้อมกับพัฒนาสูตรและรสชาติใหม่ๆ ออกมาเสมอ ซึ่งตรงนี้ทาง CP ALL ได้ให้คำปรึกษาในการขยายกิจการของคุณป้าอย่างดี เรียกว่าเป็นกิจการที่โตไปด้วยกันอย่างยั่งยืนทั้งคุณป้าและชุมชน
สามารถฟังบทสัมภาษณ์คุณป้า พร้อมกับชมบรรยากาศของชุมชนและโรงงานน้ำพริกป้าแว่นเพิ่มเติมได้จากคลิปด้านล่างเลยครับ
ปิดท้ายด้วยน้ำพริกปลาแว่นแบบบุฟเฟ่ต์ ปลาทูทอด พร้อมผักแกล้ม ฟินกว่านี้ไม่มีอีกโล้วววววววววววว